หัวน้ำหอม คืออะไร? ทำไมหอมทนกว่าน้ำหอมทั่วไป
รู้หรือไม่ น้ำหอม ไม่ได้มีไว้แค่ “หอม” อย่างเดียว!
น้ำหอมไม่ได้มีไว้เพียงสร้างความหอม แต่ยังสะท้อนบุคลิกของผู้ใช้ด้วย กลิ่นหอมมีพลังกระตุ้นความทรงจำ ความรู้สึก และสร้างเสน่ห์เฉพาะตัว เช่น กลิ่นดอกไม้ให้ความรู้สึกอ่อนโยน สดชื่น ขณะที่กลิ่นไม้ หรือมัสก์สื่อถึงความมั่นใจและลึกลับ
น้ำหอมแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามความเข้มข้นของน้ำมันหอม เช่น Eau de Parfum อยู่ได้นานถึง 6–8 ชั่วโมง ขณะที่ Eau de Toilette จะเบากว่าอยู่ได้ราว 3–4 ชั่วโมง
การฉีดน้ำหอมให้ติดทนนาน ควรฉีดบริเวณจุดชีพจร เช่น ข้อมือ หลังใบหู หรือลำคอ เพราะอุณหภูมิของร่างกายจะช่วยกระจายกลิ่นได้ดี
หัวน้ำหอม คืออะไร ทำไมหอมทนกว่าน้ำหอมทั่วไปละ
หัวน้ำหอม หรือที่เรียกว่า “Perfume Oil” คือสารสกัดกลิ่นบริสุทธิ์ที่มีความเข้มข้นสูงกว่าน้ำหอมทั่วไป ไม่ผสมน้ำหรือแอลกอฮอล์ ทำให้กลิ่นติดทนนาน ใช้เพียงหยดเล็ก ๆ ก็หอมตลอดวัน ข้อดีของหัวเชื้อน้ำหอมคือ ไม่ระคายเคืองผิว และมีกลิ่นที่นิ่ง ไม่เปลี่ยนแปลงมากนักเมื่อเวลาผ่านไป ต่างจากน้ำหอมที่มีแอลกอฮอล์ ซึ่งกลิ่นอาจจางลงหรือเปลี่ยนโทน
วิธีใช้หัวน้ำหอมให้ได้ผลดี ควรแตะเล็กน้อยที่จุดชีพจร เช่น หลังหู ข้อมือ หรือกลางอก กลิ่นจะกระจายอย่างเป็นธรรมชาติและติดทนทั้งวัน
“หัวน้ำหอม” คืออะไร รู้จักของหอมที่อยู่เบื้องหลังกลิ่นหรูติดทนนาน
หัวน้ำหอม (Perfume Oil หรือ Fragrance Concentrate) คือสารสกัดกลิ่นที่เข้มข้นที่สุดของน้ำหอม ไม่มีการเจือจางด้วยแอลกอฮอล์หรือน้ำ จึงให้กลิ่นที่ชัด ติดทนนาน และมีความเสถียรสูง เหมาะกับผู้ที่ชอบกลิ่นหอมแบบลุ่มลึก หรือมีผิวแพ้ง่าย เพราะไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองเหมือนน้ำหอมที่มีแอลกอฮอล์
ประเภทของหัวเชื้อน้ำหอม มีหลากหลายเกรด แบ่งตามความบริสุทธิ์และวัตถุดิบ เช่น
- เกรดพรีเมียม: ใช้น้ำมันหอมแท้จากธรรมชาติ กลิ่นหอมมีมิติ และติดทนนาน
- เกรดทั่วไป: สังเคราะห์กลิ่นให้ใกล้เคียงธรรมชาติ เหมาะสำหรับใช้ผสมในปริมาณมาก เช่น น้ำหอมแฟชั่น โลชั่น เทียนหอม
ข้อดี
- ติดทนนานกว่า 8–12 ชั่วโมง หรือบางกลิ่นนานเป็นวัน
- ใช้ปริมาณน้อยแต่ให้กลิ่นที่เด่นชัด
- กลิ่นไม่เพี้ยนตามเวลาเหมือนน้ำหอมที่ผสมแอลกอฮอล์
- ใช้ผสมผลิตภัณฑ์อื่นได้ เช่น ครีม โลชั่น สเปรย์
วิธีใช้ให้ได้ผลดีที่สุด
เพียงแตะเล็กน้อยบริเวณจุดชีพจร เช่น ข้อมือ ลำคอ หลังหู หรือหลังหัวเข่า ความร้อนจากร่างกายจะช่วยให้กลิ่นฟุ้งกระจายอย่างเป็นธรรมชาติ
ข้อควรระวัง
แม้ว่าหัวเชื้อน้ำหอมจะปลอดภัย แต่เนื่องจากมีความเข้มข้นสูง จึงควรทดสอบอาการแพ้ก่อนใช้ และไม่ควรใช้ในปริมาณมากเกินไป เพราะอาจทำให้กลิ่นแรงเกินพอดี
ใช้ทำอะไรได้บ้าง กลิ่นหอมที่มากกว่าแค่น้ำหอม
หลายคนอาจเข้าใจว่าหัวเชื้อน้ำหอม (Perfume Oil) ใช้ได้แค่ทำ “น้ำหอม” เท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วหัวเชื้อน้ำหอมมีประโยชน์มากกว่านั้นเยอะ! ด้วยความเข้มข้นของกลิ่นและความหลากหลายของกลิ่นหอม ทำให้หัวเชื้อน้ำหอมถูกนำไปใช้ในหลายรูปแบบ ทั้งเพื่อความงาม สุขภาพ และในงานสร้างสรรค์อื่น ๆ อีกมากมาย
- ทำน้ำหอมแบบแฮนด์เมด
หัวเชื้อน้ำหอมสามารถนำมาผสมกับแอลกอฮอล์และน้ำกลั่น เพื่อทำน้ำหอมฉีดตัวแบบ DIY ได้ กลิ่นจะติดทนและสามารถเลือกสไตล์กลิ่นได้เองตามใจชอบ
- แต้มตามผิวแทนน้ำหอมฉีด
บางคนใช้หัวเชื้อน้ำหอมแบบแต้ม (Roll-on) แทนน้ำหอมฉีด เพราะไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่ระคายเคืองผิว และกลิ่นหอมติดทนนานมาก เหมาะกับคนผิวแพ้ง่าย
- ใช้ผสมในเครื่องสำอางและของใช้ส่วนตัว
หัวเชื้อน้ำหอมสามารถผสมในโลชั่น ครีมอาบน้ำ แชมพู หรือสบู่ก้อน เพื่อเพิ่มความหอมเฉพาะตัวให้กับผลิตภัณฑ์ ทำให้รู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายทุกครั้งที่ใช้
- ทำเทียนหอมและน้ำมันอโรม่า
กลิ่นหอมจากหัวเชื้อน้ำหอมช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายได้ดีมาก จึงนิยมใช้ในเทียนหอม น้ำมันอโรม่า หรือใช้ในเครื่องพ่นไอน้ำ เพื่อปรับอากาศในบ้านหรือห้องนอนให้หอมสดชื่น
- ใช้ในงานหัตถกรรมหรือของขวัญ
หัวเชื้อน้ำหอมยังถูกใช้ในของขวัญทำมือ เช่น ซองหอม ปฏิทินหอม ซองจดหมาย น้ำหอมปรับอากาศในรถ หรือแม้แต่ของที่ระลึกงานแต่งงาน
***นี่คือ วิธีผสมน้ำหอมฉีดตัวใช้เอง แบบง่าย ๆ ที่คุณสามารถทำได้ที่บ้าน พร้อมสัดส่วนแนะนำ และเคล็ดลับให้กลิ่นหอมติดทนนานค่ะ
🧪 อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม
- หัวเชื้อน้ำหอม (Perfume Oil) – 10–30% ขึ้นอยู่กับความเข้มที่ต้องการ
- แอลกอฮอล์ 95% (Ethanol) – 70–85%
- น้ำกลั่น (Distilled Water) – 5–10%
- กลีเซอรีน (Glycerin) – 2–3 หยด (ช่วยให้กลิ่นติดทน)
- ขวดสเปรย์แก้วหรือขวดน้ำหอมเปล่า
- หลอดตวง / หลอดหยด / กรวยเล็ก
🧴 วิธีผสม
- เติมแอลกอฮอล์ลงในขวดก่อน (ประมาณ 70-80% ของปริมาณทั้งหมด)
- เติมหัวเชื้อน้ำหอมลงไป – เริ่มจาก 10–20% หากต้องการกลิ่นเข้มขึ้นค่อยเพิ่มได้
- เติมน้ำกลั่นลงเล็กน้อย – ช่วยให้กลิ่นกระจายตัวดีขึ้น (5–10%)
- หยดกลีเซอรีน 2–3 หยด – กลิ่นจะติดทนและนุ่มนวลขึ้น
- เขย่าขวดเบา ๆ ให้ส่วนผสมเข้ากัน
- หมักทิ้งไว้ 2–4 สัปดาห์ในที่เย็นและมืด – กลิ่นจะกลมกล่อมและนิ่งขึ้นมาก
💡 หากต้องการใช้งานทันที ก็สามารถใช้ได้เลย แต่กลิ่นอาจยังไม่เข้าที่เหมือนหมักไว้ค่ะ
📝 เคล็ดลับเพิ่มเติม
- ใช้ แอลกอฮอล์ฟู้ดเกรด เพื่อความปลอดภัยหากสัมผัสผิวโดยตรง
- หากไม่อยากใช้แอลกอฮอล์เลย ก็สามารถใช้หัวเชื้อน้ำหอมแบบโรลออน หรือผสมกับน้ำมันเบส (เช่น jojoba oil) ทำเป็นน้ำหอมแบบออยล์ได้
- ทดลองผสมกลิ่น 2–3 กลิ่น เพื่อให้ได้กลิ่นเฉพาะตัว เช่น กลิ่นดอกไม้ + วานิลลา = หวานหรูแบบอบอุ่น
สนใจติดต่อ เวิลด์เคมีคอล กรุ๊ป ผู้นําด้านการจําหน่ายและนำเข้า สารเคมีภัณฑ์ เคมีภัณฑ์อุตสาหกรรม ขนาดใหญ่ และ ขนาดย่อม ประเภท เคมีอุตสาหกรรม เคมีทําความสะอาด เคมีสระว่ายน้ำ เคมีบำบัดน้ำ เคมีงานปั้น-งานหล่อ เคมีอาหาร กลิ่น สารสกัด สี น้ำหอม เคมีเครื่องสำอาง อาทิ กลีเซอรีน โซดาไฟเกล็ด โซเดียมเมต้าไบซัลไฟต์ เอทิลแอลกอฮอล์ ฯลฯ สารพัดด้านเคมี เวิลด์เคมิคอล กรุ๊ป พร้อมให้บริการและให้ปรึกษากับลูกค้าทุกท่าน
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Line ID : @worldchemical
Facebook : https://www.facebook.com/chemical.chiangmai
เว็บไซต์ : www.worldchemical.co.th
โทร : 053 204 446-7