กรดเปอร์อะซิติก คืออะไร? อันตรายไหม ใช้ทำอะไรได้บ้าง

ในยุคที่สุขอนามัยและความปลอดภัยทางชีวภาพมีบทบาทสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ “กรดเปอร์อะซิติก” หรือ Peracetic Acid (PAA) กลายเป็นชื่อที่คุ้นหูในอุตสาหกรรมหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมอาหาร การแพทย์ หรือแม้แต่การบำบัดน้ำเสีย หลายคนอาจสงสัยว่า สารเคมีตัวนี้คืออะไร? อันตรายหรือไม่? และใช้ทำอะไรได้บ้าง?

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับสารฆ่าเชื้อเปอร์อะซิติก อย่างละเอียด พร้อมอธิบายประโยชน์ การใช้งาน รวมถึงข้อควรระวัง เพื่อให้คุณสามารถใช้งานได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย


กรดเปอร์อะซิติก คืออะไร?

สารฆ่าเชื้อเปอร์อะซิติก  หรือ Peracetic Acid (PAA) เป็นสารประกอบออกซิแดนต์ชนิดหนึ่ง มีสูตรเคมีคือ CH₃CO₃H มีลักษณะเป็นของเหลวไม่มีสี แต่มีกลิ่นฉุนเฉพาะตัว มักถูกผลิตขึ้นโดยการผสมระหว่างกรดอะซิติก (Acetic Acid) กับเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen Peroxide)

PAA เป็นสารที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อสูง และย่อยสลายได้เป็นสารธรรมชาติ ได้แก่ น้ำ ออกซิเจน และกรดอะซิติก ซึ่งทำให้มันเป็นทางเลือกที่นิยมแทนสารฆ่าเชื้อแบบคลอรีนที่ตกค้างยาวนานและทำลายสิ่งแวดล้อม


🔬 คุณสมบัติเด่นของกรดเปอร์อะซิติก (Peracetic Acid – PAA)

1. ฆ่าเชื้อได้หลากหลาย

สารฆ่าเชื้อเปอร์อะซิติก เป็นสารออกซิแดนต์ที่มีศักยภาพสูงในการทำลายจุลชีพทุกชนิด:

  • แบคทีเรีย ทั้งแกรมบวกและแกรมลบ เช่น E. coli, Salmonella

  • ไวรัส ทั้งชนิดมีเปลือกหุ้มและไม่มีเปลือกหุ้ม เช่น ไวรัสตับอักเสบ เอ ไวรัสไข้หวัดใหญ่

  • เชื้อราและยีสต์ เช่น Candida albicans

  • สปอร์ของแบคทีเรีย ซึ่งมักทนต่อการฆ่าเชื้อ เช่น Clostridium difficile

  • โพรโตซัวและจุลินทรีย์อื่น ๆ ในระบบน้ำหรือบนพื้นผิว

ด้วยความสามารถในการแทรกซึมผนังเซลล์และออกซิไดซ์โปรตีนและสารพันธุกรรม PAA จึงสามารถกำจัดเชื้อที่ต้านทานสารฆ่าเชื้อทั่วไปได้ดี

2. ออกฤทธิ์รวดเร็ว

PAA สามารถออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อได้ภายในเวลา เพียงไม่กี่วินาทีถึงไม่กี่นาที ขึ้นอยู่กับ:

  • ความเข้มข้นของสาร

  • ประเภทของจุลชีพ

  • สภาพแวดล้อม (อุณหภูมิ, pH, ปริมาณอินทรียวัตถุ)

ตัวอย่าง:

  • ที่ความเข้มข้น 80–200 ppm สามารถฆ่า E. coli และ Listeria ได้ภายใน 30 วินาที

  • ใช้กับพื้นผิวหรือระบบ CIP โดยไม่ต้องแช่นาน

ความรวดเร็วนี้ช่วยลดระยะเวลาการทำความสะอาดและลดโอกาสการปนเปื้อนซ้ำ

3. ไม่ตกค้าง

หนึ่งในข้อได้เปรียบสำคัญของ PAA คือ ย่อยสลายง่าย:

  • ผลิตภัณฑ์หลังปฏิกิริยา: กรดอะซิติก (น้ำส้มสายชู), น้ำ, ออกซิเจน

  • ไม่ตกค้างสารพิษ เช่น คลอรีนตกค้างหรือคลอรามีน

  • เหมาะกับอุตสาหกรรมอาหาร ระบบน้ำ หรือสถานพยาบาลที่ต้องการความปลอดภัยสูง

สิ่งนี้ช่วยให้สามารถใช้งานได้ในพื้นที่ที่มีการสัมผัสของมนุษย์หรือสัตว์โดยตรง โดยไม่จำเป็นต้องล้างออกในหลายกรณี

4. ทำงานได้ในน้ำที่มีความกระด้าง

สารฆ่าเชื้อเปอร์อะซิติก สามารถคงประสิทธิภาพได้ดีในน้ำที่มีแร่ธาตุสูง เช่น แคลเซียมหรือแมกนีเซียม ซึ่งเรียกว่าน้ำกระด้าง

  • ต่างจากคลอรีน ที่มักจับกับแร่ธาตุจนลดประสิทธิภาพ

  • ทำให้เหมาะกับการใช้ในพื้นที่ที่คุณภาพน้ำไม่สม่ำเสมอ เช่น โรงงานในพื้นที่ชนบท หรือโรงฆ่าสัตว์

5. ใช้ได้ในช่วงอุณหภูมิกว้าง

PAA ยังคงมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแม้ในอุณหภูมิที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน:

  • อุณหภูมิต่ำ: ยังคงออกฤทธิ์ได้ดีในน้ำเย็น 4–10°C

  • อุณหภูมิสูง: มีเสถียรภาพดีในน้ำร้อนถึง 60–80°C โดยไม่สลายตัวเร็วเกินไป

คุณสมบัตินี้ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานใน:

  • ระบบ CIP ในโรงงานที่ต้องล้างด้วยน้ำร้อน

  • สถานการณ์ภาคสนามที่ควบคุมอุณหภูมิไม่ได้ดีนัก

✅ สรุปภาพรวม

คุณสมบัติ จุดเด่น
ฆ่าเชื้อครอบคลุม ทำลายเชื้อได้หลากหลาย รวมถึงสปอร์และไวรัส
ความเร็วในการออกฤทธิ์ ฆ่าเชื้อได้ในไม่กี่วินาที
ความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม ย่อยสลายเป็นสารปลอดภัย
ใช้ได้กับน้ำกระด้าง ประสิทธิภาพไม่ลดลง
ใช้งานได้ทุกอุณหภูมิ ทำงานได้ตั้งแต่เย็นจัดถึงร้อนจัด

💼 การใช้งานของกรดเปอร์อะซิติกในอุตสาหกรรมต่าง ๆ

สารฆ่าเชื้อเปอร์อะซิติก  (PAA) ได้รับความนิยมในภาคอุตสาหกรรมอย่างแพร่หลาย เนื่องจากเป็นสารฆ่าเชื้อที่มีประสิทธิภาพสูง ย่อยสลายง่าย ไม่ตกค้าง และไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์หรือสิ่งแวดล้อม ซึ่งเหมาะกับการใช้งานในหลายบริบทที่ต้องการมาตรฐานความสะอาดและความปลอดภัยสูง

1. อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม

PAA มีบทบาทสำคัญในการควบคุมความสะอาดและความปลอดภัยทางอาหาร โดยมีการใช้งานในรูปแบบต่าง ๆ ดังนี้:

  • ✅ ล้างอุปกรณ์แปรรูปอาหาร เช่น สายพาน เครื่องบรรจุ ถังผสม เพื่อกำจัดจุลชีพที่อาจทำให้เกิดการปนเปื้อน

  • ✅ ฆ่าเชื้อภาชนะและเครื่องมือ เช่น ถาด ใบมีด หัวฉีดบรรจุ ที่สัมผัสโดยตรงกับอาหาร

  • ✅ ระบบ CIP (Clean-In-Place): นิยมในโรงงานผลิตนม เครื่องดื่ม น้ำผลไม้ เพื่อฆ่าเชื้อภายในท่อและถัง โดยไม่ต้องรื้ออุปกรณ์ออกมา

  • ✅ ล้างผลไม้ ผักสด หรือไข่ไก่: เพื่อยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย เช่น Salmonella, Listeria และยืดอายุการเก็บรักษา โดยไม่ทิ้งสารตกค้าง

🟩 ตัวอย่าง: โรงงานผลิตน้ำผลไม้สามารถใช้น้ำผสม PAA ฆ่าเชื้อขวดก่อนบรรจุ เพื่อให้มั่นใจว่าปราศจากจุลชีพก่อนปิดผนึก

2. อุตสาหกรรมการแพทย์และสถานพยาบาล

PAA มีความสามารถในการทำลายเชื้อจุลชีพระดับสูง รวมถึงสปอร์ของแบคทีเรีย ซึ่งเหมาะกับการใช้ในบริเวณที่ต้องการปลอดเชื้ออย่างแท้จริง:

  • ✅ ฆ่าเชื้ออุปกรณ์ผ่าตัด และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทนต่อความร้อน

  • ✅ ส่วนผสมในน้ำยาล้างเครื่องมือแพทย์: สามารถใช้แทนกลูตารัลดีไฮด์ที่ระคายเคืองและเป็นอันตราย

  • ✅ เครื่องพ่นฆ่าเชื้อ (Fogging): ใช้พ่นในห้องผ่าตัด ห้องผู้ป่วยหนัก (ICU) คลินิกทันตกรรม หรือห้องแยกโรค

🟩 ตัวอย่าง: โรงพยาบาลสามารถใช้ PAA พ่นฆ่าเชื้อหลังจากผู้ป่วยติดเชื้อออกจากห้อง เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น

3. การบำบัดน้ำและสิ่งแวดล้อม

สารฆ่าเชื้อเปอร์อะซิติก เป็นตัวเลือกยอดนิยมในระบบบำบัดน้ำ เพราะสามารถฆ่าเชื้อได้โดยไม่ทำลายระบบนิเวศ:

  • ✅ ฆ่าเชื้อในน้ำเสีย ก่อนปล่อยลงสู่แม่น้ำหรือแหล่งน้ำสาธารณะ

  • ✅ ระบบน้ำหมุนเวียน เช่น ในโรงพยาบาล โรงงาน หรือฟาร์ม เพื่อควบคุมการปนเปื้อนจากแบคทีเรีย

  • ✅ ฆ่าเชื้อในน้ำเย็น ที่ใช้ล้างวัตถุดิบอาหาร เช่น ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ โดยไม่มีสารตกค้าง

🟩 ตัวอย่าง: โรงงานผลิตอาหารทะเลใช้น้ำเย็นผสม PAA ล้างกุ้งหรือปลา เพื่อลดจุลชีพก่อนบรรจุภัณฑ์

4. อุตสาหกรรมฟาร์มและปศุสัตว์

ในภาคเกษตรและฟาร์มปศุสัตว์ PAA ช่วยยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อโรคในวงกว้าง โดยเฉพาะฟาร์มที่มีสัตว์อยู่หนาแน่น:

  • ✅ ฆ่าเชื้อคอกสัตว์ พื้นกรง และอุปกรณ์ให้อาหาร

  • ✅ พ่นฆ่าเชื้อโรงเรือน: ช่วยลดกลิ่น สปอร์ และเชื้อที่อยู่ในอากาศ

  • ✅ น้ำดื่มสัตว์: PAA ที่ความเข้มข้นต่ำสามารถใช้ฆ่าเชื้อในถังเก็บน้ำให้สัตว์ โดยไม่เป็นอันตราย

🟩 ตัวอย่าง: ฟาร์มไก่เนื้อสามารถพ่นฆ่าเชื้อทุกสัปดาห์เพื่อควบคุมโรคระบบทางเดินหายใจและท้องร่วงในสัตว์

5. สระว่ายน้ำและสปา

PAA ถูกนำมาใช้แทนคลอรีนเพื่อหลีกเลี่ยงกลิ่นฉุนและการระคายเคืองต่อผิวหนังหรือดวงตา:

  • ✅ ฆ่าเชื้อในน้ำสระว่ายน้ำ ได้โดยไม่เกิดสารพลอยได้ที่เป็นอันตราย เช่น ไตรฮาโลมีเทน

  • ✅ ลดการเกิดไบโอฟิล์มและตะไคร่ ที่เกาะตามผนังสระหรือท่อน้ำ

  • ✅ เหมาะสำหรับสปา สระเด็ก หรือโรงเรียน ที่ต้องการลดความเสี่ยงจากคลอรีนตกค้าง

🟩 ตัวอย่าง: รีสอร์ตระดับหรูในต่างประเทศนิยมใช้ระบบกรองร่วมกับ PAA เพื่อให้ประสบการณ์สระว่ายน้ำที่ปลอดภัยและไร้กลิ่นคลอรีน

🧾 สรุปประโยชน์โดยรวม

อุตสาหกรรม ตัวอย่างการใช้งาน ประโยชน์หลัก
อาหาร/เครื่องดื่ม CIP, ล้างผักผลไม้ ฆ่าเชื้อโดยไม่ตกค้าง
การแพทย์ ล้างเครื่องมือ, พ่นฆ่าเชื้อ ปลอดภัยและฆ่าเชื้อระดับสูง
บำบัดน้ำ ฆ่าเชื้อในน้ำเสีย, น้ำเย็น ป้องกันการปนเปื้อนสิ่งแวดล้อม
ฟาร์มปศุสัตว์ ล้างคอก, น้ำดื่มสัตว์ ควบคุมโรคจากสัตว์สู่สัตว์
สระว่ายน้ำ/สปา แทนคลอรีน ลดกลิ่นและการระคายเคือง

⚠️ กรดเปอร์อะซิติก อันตรายหรือไม่?

แม้ว่า สารฆ่าเชื้อเปอร์อะซิติก  (PAA) จะมีประโยชน์อย่างมากในด้านการฆ่าเชื้อและสิ่งแวดล้อม แต่ก็ยังถือว่าเป็น สารเคมีอันตรายประเภทออกซิแดนต์แรงสูง ที่ผู้ใช้ควรมีความรู้และความระมัดระวังในการใช้งานอย่างเคร่งครัด

☣️ อันตรายต่อสุขภาพ

เมื่อสัมผัสโดยตรงหรือใช้ผิดวิธี PAA สามารถส่งผลต่อร่างกายได้ในหลายรูปแบบ:

1. ระคายเคืองผิวหนัง

  • ทำให้เกิด แผลพุพอง ผิวลอก แสบหรือแดง โดยเฉพาะเมื่อสัมผัสเข้มข้น

  • ผู้ที่ผิวบอบบางอาจมีอาการแพ้หรือไหม้เคมี

2. ระคายเคืองตา

  • PAA มีฤทธิ์กัดกร่อนสูง หากเข้าตาจะทำให้ ตาแดง ปวดแสบ หรือในบางกรณีอาจทำให้กระจกตาเสียหาย ถึงขั้นสูญเสียการมองเห็นได้ถ้าไม่ได้รับการรักษา

3. อันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ

  • การสูดดมไอระเหยจากสารเข้มข้นอาจทำให้เกิด:

    • ไอแห้ง

    • แน่นหน้าอก

    • หายใจลำบาก

    • ระคายเคืองจมูกและลำคอ

    • ในกรณีรุนแรงอาจมีผลต่อปอด

4. อันตรายเมื่อกลืนกิน

  • การกลืน PAA แม้เพียงปริมาณเล็กน้อยอาจทำให้:

    • เกิดแผลไหม้ในปาก หลอดอาหาร และกระเพาะ

    • ปวดท้อง อาเจียน หรืออุจจาระเป็นเลือด

    • หากไม่รีบรักษา อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้

🛡️ แนวทางความปลอดภัยในการใช้งาน

การป้องกันที่ดีเป็นหัวใจหลักในการลดความเสี่ยงจาก PAA โดยควรปฏิบัติดังนี้:

✅ อุปกรณ์ป้องกัน (PPE)

  • สวม ถุงมือยางหนา

  • สวม แว่นครอบตานิรภัย (Safety Goggles) หรือหน้ากากกันสารเคมี

  • ใช้ หน้ากากกันไอระเหย (Respirator) ในพื้นที่อับหรือปิด

  • สวมชุดคลุมป้องกันสารเคมี (เช่น เอี๊ยม PVC)

✅ วิธีการเก็บรักษา

  • เก็บไว้ในภาชนะที่ ทนต่อการกัดกร่อน เช่น ขวดพลาสติก HDPE

  • ปิดฝาภาชนะให้สนิททุกครั้งหลังใช้งาน

  • เก็บในที่แห้ง เย็น และ ห่างจากแสงแดด ความร้อน หรือเปลวไฟ

  • หลีกเลี่ยงการจัดเก็บร่วมกับสารเคมีอื่น เช่น ด่างเข้มข้น คลอรีน หรือแอมโมเนีย

❌ ห้ามผสมกับ:

  • คลอรีน (Sodium Hypochlorite)

  • แอมโมเนีย

  • กรดหรือด่างเข้มข้น

การผสมสารเหล่านี้กับ PAA อาจเกิด ก๊าซพิษรุนแรง เช่น คลอรีนหรือไนโตรเจนออกไซด์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิตทันที

🚨 ข้อควรปฏิบัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

กรณี แนวทางปฏิบัติ
สัมผัสผิวหนัง ล้างด้วยน้ำสะอาดไหลผ่านอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 15 นาที และถอดเสื้อผ้าที่เปื้อนออกทันที
เข้าดวงตา ล้างตาด้วยน้ำสะอาดทันทีอย่างน้อย 15–20 นาที แล้วรีบนำส่งแพทย์
สูดดมไอระเหย เคลื่อนผู้ป่วยออกสู่พื้นที่อากาศถ่ายเท หากมีอาการรุนแรงให้ให้ออกซิเจนและนำส่งโรงพยาบาล
กลืนกิน ห้ามทำให้อาเจียนเด็ดขาด ให้ดื่มน้ำตามและรีบนำส่งโรงพยาบาล พร้อมแสดงฉลากสารเคมี

📌 หมายเหตุ: ควรมีชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้นประจำจุดใช้งาน PAA เสมอ

📘 ข้อมูลอ้างอิงและการจัดประเภทความอันตราย

  • PAA จัดเป็นสารเคมีอันตรายตามระบบ GHS (Globally Harmonized System):

    • Oxidizer (สารออกซิไดซ์)

    • Corrosive (สารกัดกร่อน)

    • Health Hazard (อันตรายต่อสุขภาพ)

  • หน่วยงาน OSHA และ EPA ของสหรัฐฯ กำหนดค่าความเข้มข้นสูงสุดที่อนุญาตไว้ไม่เกิน 0.4 ppm ในพื้นที่ทำงาน

✅ สรุป: ปลอดภัยเมื่อใช้ถูกวิธี

แม้ PAA จะ มีอันตรายหากสัมผัสโดยตรงหรือใช้ผิดวิธี แต่ด้วยการใช้อุปกรณ์ป้องกันอย่างเหมาะสม การอบรมพนักงาน และการจัดการสารเคมีอย่างมืออาชีพ ก็สามารถทำให้ การใช้งานปลอดภัยและคุ้มค่ามาก โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ต้องการมาตรฐานความสะอาดระดับสูง

หากคุณต้องการใบข้อมูลความปลอดภัย (MSDS) ของกรดเปอร์อะซิติก หรือแบบฟอร์มการประเมินความเสี่ยง (Risk Assessment) สำหรับหน่วยงานหรือโรงงานของคุณ ผมสามารถช่วยรวบรวมหรือจัดทำให้ได้ครับ!

🌟 ทำไมกรดเปอร์อะซิติก (PAA) ถึงเป็นที่นิยม?

กรดเปอร์อะซิติกไม่ใช่เพียงแค่สารฆ่าเชื้อที่มีประสิทธิภาพสูงเท่านั้น แต่ยังตอบโจทย์ด้านความปลอดภัย สุขอนามัย และสิ่งแวดล้อมได้ในระดับที่สารเคมีทั่วไป เช่น คลอรีน หรือฟอร์มาลิน ไม่สามารถเทียบได้ จึงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทั่วโลก

1. ♻️ ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม

  • กรดเปอร์อะซิติกสามารถ ย่อยสลายตัวเองได้อย่างสมบูรณ์ หลังใช้งาน โดยเปลี่ยนเป็น:

    • น้ำ (H₂O)

    • ออกซิเจน (O₂)

    • กรดอะซิติก (CH₃COOH) ซึ่งมีพิษต่ำและพบในน้ำส้มสายชูทั่วไป

  • ไม่มีการปล่อยสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) หรือก๊าซพิษเมื่อใช้งานอย่างถูกต้อง

  • ไม่มีการสร้างสารพลอยได้อันตราย เช่น ไตรฮาโลมีเทน (THMs) ที่เกิดจากคลอรีนและสารอินทรีย์ในน้ำ

🟢 ผลลัพธ์: ลดความเสี่ยงต่อสิ่งแวดล้อมทั้งทางน้ำ อากาศ และดิน เหมาะสำหรับระบบน้ำหมุนเวียนหรือพื้นที่ที่อยู่ใกล้ชุมชน

2. 🥗 ไม่สะสมในห่วงโซ่อาหาร

  • PAA ไม่สะสมในวัตถุดิบหรือผลิตภัณฑ์อาหาร เช่น เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ หรือไข่

  • หลังการใช้งานสามารถระเหยหรือย่อยสลายได้หมดโดยไม่ทิ้ง สารตกค้างที่เป็นพิษ ให้ผู้บริโภค

  • ไม่ก่อให้เกิดปัญหาเรื่อง ค่าคงเหลือของสารฆ่าเชื้อ (residue limits) ตามมาตรฐานของ FDA หรือ EU

🟢 ผลลัพธ์: ผู้ประกอบการสามารถใช้ PAA ในกระบวนการผลิตโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการตกค้างที่อาจทำให้ถูกตีกลับสินค้า หรือถูกเพิกถอนใบรับรองด้านความปลอดภัย

3. 🏥 เหมาะกับงานที่ต้องการความปลอดภัยขั้นสูง

  • PAA ได้รับการยอมรับให้ใช้ในสถานที่ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น:

    • โรงพยาบาล: สำหรับพ่นฆ่าเชื้อห้องผ่าตัด อุปกรณ์แพทย์

    • โรงฆ่าสัตว์: สำหรับล้างอวัยวะภายในหรือลดเชื้อโรคในเนื้อสัตว์

    • โรงงานผลิตยาและอาหารปลอดเชื้อ: ใช้ในระบบ CIP หรือฆ่าเชื้อบรรจุภัณฑ์ก่อนการซีล

  • มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อสูง ครอบคลุมเชื้อดื้อยา เชื้อสปอร์ และไวรัส

🟢 ผลลัพธ์: ทำให้เป็นหนึ่งในสารที่ “ได้รับการรับรองให้ใช้ในกระบวนการที่ต้องปลอดเชื้อในระดับสูง” โดยไม่จำเป็นต้องมีขั้นตอนล้างสารออกด้วยน้ำอีกครั้ง

4. 🧴 ไม่มีปัญหาเรื่องสารตกค้าง

  • เมื่อเทียบกับสารฆ่าเชื้อประเภทอื่น เช่น คลอรีน หรือฟอร์มาลิน ซึ่งมีแนวโน้มสะสมในเนื้อเยื่อหรือทำปฏิกิริยาเกิดสารก่อมะเร็ง

  • PAA ไม่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเคมีรองที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ หรือเปลี่ยนแปลงรสชาติ กลิ่น หรือสีของอาหารและน้ำดื่ม

🟢 ผลลัพธ์: สามารถใช้กับวัตถุดิบอาหารที่ต้องบริโภคสดหรือดื่มทันที เช่น ผักล้างสด น้ำดื่ม เนื้อสัตว์ หรือเครื่องดื่มโดยไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดสารตกค้างในระดับที่เกินมาตรฐาน

✅ สรุป: ปลอดภัย–สะอาด–ไม่ตกค้าง

จุดเด่น ผลประโยชน์ที่ได้รับ
ย่อยสลายเป็นธรรมชาติ ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ไม่มีการสะสมในอาหาร ปลอดภัยต่อผู้บริโภคในระยะยาว
ใช้ในกระบวนการปลอดเชื้อ ผ่านมาตรฐานในระดับโรงพยาบาลและ GMP
ไม่ทิ้งกลิ่น สี หรือสารพิษตกค้าง เหมาะสำหรับอาหารสด น้ำดื่ม และสภาพแวดล้อมที่มีความไวสูง

สรุป

กรดเปอร์อะซิติกเป็นสารฆ่าเชื้อที่มีประสิทธิภาพสูง ใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม ทั้งอาหาร การแพทย์ ฟาร์ม และการบำบัดน้ำ จุดเด่นคือสามารถฆ่าเชื้อได้รวดเร็ว ย่อยสลายง่าย และไม่ทิ้งสารตกค้าง อย่างไรก็ตาม ก็ยังต้องใช้งานอย่างระมัดระวัง เนื่องจากมีฤทธิ์กัดกร่อนและเป็นอันตรายต่อสุขภาพหากสัมผัสโดยตรงหากคุณกำลังมองหาวิธีฆ่าเชื้อหรือทำความสะอาดที่มีประสิทธิภาพสูงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กรดเปอร์อะซิติกอาจเป็นคำตอบที่เหมาะสมที่สุด

 ติดต่อสั่งซื้อสินค้าสั่งซื้อสินค้า

สนใจติดต่อ เวิลด์เคมีคอล กรุ๊ป ผู้นําด้านการจําหน่ายและนำเข้า สารเคมีภัณฑ์ เคมีภัณฑ์อุตสาหกรรม ขนาดใหญ่ และ ขนาดย่อม ประเภท เคมีอุตสาหกรรม เคมีทําความสะอาด เคมีสระว่ายน้ำ เคมีบำบัดน้ำ เคมีงานปั้น-งานหล่อ เคมีอาหาร กลิ่น สารสกัด สี น้ำหอม เคมีเครื่องสำอาง อาทิ กลีเซอรีน โซดาไฟเกล็ด โซเดียมเมต้าไบซัลไฟต์ เอทิลแอลกอฮอล์ ฯลฯ สารพัดด้านเคมี เวิลด์เคมิคอล กรุ๊ป พร้อมให้บริการและให้ปรึกษากับลูกค้าทุกท่าน

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Line ID : @worldchemical
Facebook : https://www.facebook.com/chemical.chiangmai
เว็บไซต์ : www.worldchemical.co.th
โทร : 053 204 446-7