เคล็ดลับการเลือก ไส้กรอง น้ำให้เหมาะกับการใช้งาน

การเลือกใช้ไส้กรองน้ำอย่างเหมาะสมถือเป็นก้าวสำคัญในการดูแลสุขภาพของครอบครัว และยืดอายุการใช้งานของระบบกรองน้ำ การเลือกผิดประเภทอาจไม่เพียงแต่ทำให้การกรองไม่มีประสิทธิภาพ แต่ยังอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพในระยะยาวได้อีกด้วย เรามาดูเคล็ดลับในการเลือกไส้กรองน้ำให้เหมาะกับการใช้งานกันดีกว่า

  1. ประเภทของไส้กรองน้ำ

ไส้กรองน้ำแต่ละชนิดมีหน้าที่เฉพาะในการกำจัดสิ่งปนเปื้อนที่ต่างกันออกไป การเลือกใช้อย่างเหมาะสมจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกรอง และยืดอายุการใช้งานของระบบกรองโดยรวม ซึ่งสามารถจำแนกประเภทหลักๆ ได้ดังนี้:

1.1. Sediment Filter (ไส้กรองตะกอน)

หน้าที่: กรองสิ่งสกปรกขนาดใหญ่ เช่น ทราย ฝุ่น โคลน ตะไคร่น้ำ และสนิมที่ปนมากับน้ำ

วัสดุที่ใช้: มักทำจากโพลีโพรพีลีน (PP) หรือเส้นใยสังเคราะห์แบบพันเป็นชั้น

ระดับการกรอง: ตั้งแต่ 1 ไมครอน (ละเอียดมาก) จนถึง 20 ไมครอน

ข้อดี:        ราคาถูก

ป้องกันสิ่งสกปรกขนาดใหญ่ไม่ให้เข้าสู่ระบบกรองชั้นต่อไป

ข้อเสีย:    ไม่สามารถกรองสารเคมี กลิ่น หรือจุลินทรีย์ได้

เหมาะสำหรับ:       เป็นด่านแรกของระบบกรองน้ำทุกชนิด

% เคล็ดลับการเลือก ไส้กรอง น้ำให้เหมาะกับการใช้งาน

1.2. Carbon Filter (Activated Carbon / ไส้กรองคาร์บอน)

หน้าที่:     ดูดซับสารเคมี คลอรีน สารอินทรีย์ กลิ่น สี และรสชาติที่ไม่พึงประสงค์ในน้ำ

วัสดุที่ใช้: ถ่านกัมมันต์จากกะลามะพร้าวหรือถ่านไม้ไผ่ บดอัดเป็นแท่งหรือเม็ด

ประเภทหลัก:         GAC (Granular Activated Carbon): คาร์บอนเม็ด ดูดซับเร็ว

CTO (Carbon Block): คาร์บอนอัดแท่ง กรองละเอียดกว่า

ข้อดี:        ช่วยให้น้ำใส รสชาติดี

ดูดซับคลอรีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อเสีย:    ไม่สามารถกำจัดแบคทีเรียหรือโลหะหนักได้

ต้องเปลี่ยนเมื่อประสิทธิภาพลดลง (ดูดซับเต็มที่)

เหมาะสำหรับ:       ใช้ในขั้นตอนที่ 2 หรือ 3 ของระบบกรองน้ำดื่ม

ไส้กรองคาร์บอนบล็อค 10 นิ้ว (CTO) | World Chemical Group

1.3. Ceramic Filter (ไส้กรองเซรามิก)

หน้าที่:     กรองแบคทีเรีย เชื้อโรค และสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กในน้ำ

วัสดุที่ใช้: เซรามิกที่เผาด้วยความร้อนสูง มีรูพรุนขนาดเล็ก (ประมาณ 0.3–0.5 ไมครอน)

ข้อดี:        กรองสิ่งมีชีวิตได้ดีมาก

สามารถล้างทำความสะอาดผิวภายนอกได้

ข้อเสีย:    ไม่สามารถกำจัดสารเคมีหรือกลิ่นได้

เสี่ยงต่อการแตกร้าวหากกระแทก

เหมาะสำหรับ:       พื้นที่ที่ใช้น้ำจากแหล่งธรรมชาติ หรือน้ำที่มีความเสี่ยงปนเปื้อนเชื้อโรค

ไส้กรองเซรามิคความยาว10นิ้ว (Ceramic Filter)

1.4. UF Filter (Ultrafiltration / ไส้กรองอัลตร้า)

หน้าที่:     กรองไวรัส แบคทีเรีย โปรโตซัว และอนุภาคที่มีขนาดเล็กมาก โดยไม่ใช้ไฟฟ้า

ระดับการกรอง:     0.01–0.1 ไมครอน

ข้อดี:        ใช้งานได้โดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า

ไม่เสียแร่ธาตุในน้ำ

ข้อเสีย:    ไม่สามารถกำจัดสารละลายโลหะหนักหรือสารเคมี

เหมาะสำหรับ:ระบบกรองน้ำดื่มในพื้นที่ที่ไม่มีไฟฟ้า หรือเน้นการกรองเชื้อโรคเบื้องต้น

 

1.5. RO Filter (Reverse Osmosis / ไส้กรองแบบรีเวอร์สออสโมซิส)

หน้าที่:     กรองสารเคมี โลหะหนัก แบคทีเรีย และไวรัสอย่างมีประสิทธิภาพสูงที่สุด

ระดับการกรอง:     ละเอียดถึง 0.0001 ไมครอน

ข้อดี:        ได้คุณภาพน้ำที่สะอาดมาก ปลอดภัยสำหรับการดื่ม

กำจัดได้แม้กระทั่งสารหนู ตะกั่ว และไนเตรต

ข้อเสีย:    ต้องใช้ไฟฟ้าและมีระบบแรงดัน

มีน้ำทิ้ง (waste water)

กรองแร่ธาตุที่ดีในน้ำออกไปด้วย

เหมาะสำหรับ: พื้นที่ที่มีน้ำดิบปนเปื้อนมาก เช่น น้ำบาดาล หรือน้ำใช้ในอุตสาหกรรม

ไส้กรอง Big Blue

1.6. UV Filter (Ultraviolet / ไส้กรองแสงยูวี)

หน้าที่: ฆ่าเชื้อโรคด้วยแสง UV โดยทำลาย DNA ของเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และจุลชีพ

ข้อดี:        ไม่เปลี่ยนรสชาติของน้ำ

ฆ่าเชื้อโรคได้แม่นยำและรวดเร็ว

ข้อเสีย:    ไม่สามารถกรองสิ่งสกปรกอื่นๆ เช่น ตะกอน หรือโลหะหนัก

ต้องใช้ไฟฟ้า

เหมาะสำหรับ: ใช้ร่วมกับระบบกรองอื่นในขั้นตอนสุดท้ายเพื่อความปลอดภัยสูงสุด

2.ตรวจสอบคุณภาพน้ำในพื้นที่

การรู้ว่าคุณภาพน้ำในพื้นที่ของคุณเป็นอย่างไร (เช่น มีตะกอนเยอะ มีคลอรีนมาก หรือมีโลหะหนัก) จะช่วยให้คุณเลือกไส้กรองที่ตรงจุดที่สุด เช่น:

  • น้ำจากแหล่งธรรมชาติ อาจต้องใช้ Ceramic หรือ UV
  • น้ำประปาที่มีกลิ่นคลอรีน อาจใช้ Carbon Filter
  • น้ำบาดาลที่มีตะกอนมาก ควรใช้ Sediment Filter ก่อนขั้นตอนอื่น

 

3.พิจารณาระบบกรองที่ใช้อยู่

ระบบกรองน้ำแต่ละแบบใช้ไส้กรองที่แตกต่างกัน เช่น:

  • เครื่องกรองน้ำแบบตั้งโต๊ะหรือแขวนผนัง มักใช้ Carbon หรือ Sediment
  • เครื่องกรองน้ำระบบ RO ต้องใช้ไส้กรองหลายชั้น เช่น Sediment → Carbon → RO membrane → Post Carbon

ควรศึกษาคู่มือของเครื่องกรองว่าใช้ไส้กรองชนิดใด และเปลี่ยนตามรอบที่แนะนำ

 

4.ความถี่ในการเปลี่ยนไส้กรอง

การเลือกไส้กรองที่เหมาะสม ยังรวมถึงการดูแลและเปลี่ยนตามระยะเวลาที่กำหนด:

  • Sediment: ทุก 3–6 เดือน
  • Carbon: ทุก 6–12 เดือน
  • RO Membrane: ทุก 1–2 ปี
  • UV Lamp: ทุก 1 ปี

หากใช้งานหนักหรือในพื้นที่น้ำไม่สะอาด ควรเปลี่ยนถี่ขึ้น

5.เลือกสินค้าคุณภาพจากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ

อย่ามองแค่ราคาถูก เพราะไส้กรองไม่มีคุณภาพอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ ควรเลือก:

  • แบรนด์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน (เช่น NSF)
  • มีรีวิวผู้ใช้งานที่ดี
  • มีข้อมูลชัดเจนเกี่ยวกับวัสดุและประสิทธิภาพการกรอง

 

ยกตัวอย่าง

ไส้กรอง Big Blue คืออะไร?

Big Blue เป็นชื่อเรียกเชิงการค้าของระบบกรองน้ำที่ใช้ไส้กรองขนาดใหญ่กว่าปกติ โดยมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง ประมาณ 4.5 นิ้ว และความยาว 10 หรือ 20 นิ้ว (10”/20”) ซึ่งแตกต่างจากไส้กรองมาตรฐานทั่วไปที่มีขนาด 2.5 นิ้ว

จุดเด่นและข้อแตกต่างของไส้กรอง Big Blue

หัวข้อ ไส้กรอง Big Blue ไส้กรองมาตรฐานทั่วไป
ขนาด ใหญ่กว่า (4.5″x10″/20″) เล็กกว่า (2.5″x10″)
ปริมาณการกรอง ปริมาณน้ำผ่านได้มากต่อชั่วโมง น้ำน้อยกว่า เหมาะใช้เฉพาะจุด
ความเหมาะสมในการใช้งาน ระบบกรองทั้งบ้าน/โรงงาน/ร้านอาหาร จุดใช้งานเดียว เช่น กรองน้ำดื่มในบ้าน
อายุการใช้งาน นานกว่าเพราะกรองได้มาก ต้องเปลี่ยนบ่อยกว่า
แรงดันน้ำตกคร่อมน้อยกว่า น้ำไหลแรงกว่าในระบบเดียวกัน แรงดันตกเมื่อกรองนาน
ต้นทุนต่อชิ้น สูงกว่านิดหน่อย ถูกกว่า แต่เปลี่ยนบ่อย
วัสดุที่ใช้ เช่นเดียวกับไส้กรองทั่วไป (Sediment, Carbon, Resin ฯลฯ) เหมือนกันแต่ขนาดเล็กกว่า

ประเภทของไส้กรอง Big Blue ที่นิยม

  1. Sediment Big Blue – กรองตะกอน ฝุ่น สนิม
  2. Carbon Block Big Blue – กรองกลิ่น สี คลอรีน
  3. Resin Big Blue – ลดความกระด้าง (หินปูน/แคลเซียม)
  4. PP + GAC Combo – แบบรวมหลายขั้นตอนในไส้เดียว

เหมาะกับใคร?

  • บ้านที่มีการใช้น้ำทั้งระบบ เช่น บ้าน 2 ชั้นขึ้นไป
  • ร้านอาหาร/คาเฟ่/โรงงานผลิตอาหาร
  • โรงแรมหรือรีสอร์ทที่ต้องการน้ำสะอาดปริมาณมาก
  • ผู้ที่ต้องการลดการเปลี่ยนไส้กรองบ่อย ๆ และดูแลระบบง่ายขึ้น

ข้อควรระวัง

  • ต้องแน่ใจว่าแรงดันน้ำในระบบเพียงพอ
  • ควรติดตั้งโดยมืออาชีพเพราะตัวกระบอกค่อนข้างใหญ่และหนัก
  • ควรเลือกวัสดุไส้กรองให้เหมาะกับปัญหาน้ำในพื้นที่

 

 ติดต่อสั่งซื้อสินค้าไส้กรอง Big Blue

สนใจติดต่อ เวิลด์เคมีคอล กรุ๊ป ผู้นําด้านการจําหน่ายและนำเข้า สารเคมีภัณฑ์ เคมีภัณฑ์อุตสาหกรรม ขนาดใหญ่ และ ขนาดย่อม ประเภท เคมีอุตสาหกรรม เคมีทําความสะอาด เคมีสระว่ายน้ำ เคมีบำบัดน้ำ เคมีงานปั้น-งานหล่อ เคมีอาหาร กลิ่น สารสกัด สี น้ำหอม เคมีเครื่องสำอาง อาทิ กลีเซอรีน โซดาไฟเกล็ด โซเดียมเมต้าไบซัลไฟต์ เอทิลแอลกอฮอล์ ฯลฯ สารพัดด้านเคมี เวิลด์เคมิคอล กรุ๊ป พร้อมให้บริการและให้ปรึกษากับลูกค้าทุกท่าน

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Line ID : @worldchemical
Facebook : https://www.facebook.com/chemical.chiangmai
เว็บไซต์ : www.worldchemical.co.th
โทร : 053 204 446-7