World Chemical Group

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

FAQ (คำถามที่พบบ่อย)

เว็บไซต์ www.worldchemical.co.th รวบรวมชุดคำถามและคำตอบที่ลูกค้ามักสอบถามเข้ามาบ่อยเกี่ยวกับ สินค้า เคมีภัณฑ์ บริการจัดส่ง และการใช้งานเว็บไซต์เพื่อให้ลูกค้าสามารถค้นหาคำตอบได้ด้วยตนเองอย่างสะดวก รวดเร็ว โดยไม่จำเป็นต้องรอการตอบกลับจากทีมงาน

🏭 1. เคมีภัณฑ์อุตสาหกรรม (Industrial Grade)

เป็นเคมีภัณฑ์ที่ใช้ในกระบวนการผลิตในโรงงานหรือภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น งานทำความสะอาดโลหะ งานเคลือบผิว งานผลิตสบู่ ผงซักฟอก สี ยาง พลาสติก และน้ำยาทำความสะอาด
🔹 มีความบริสุทธิ์ในระดับที่เหมาะสมกับการใช้งานทั่วไป
🔹 ราคาย่อมเยา
🔹 ไม่เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความละเอียดสูง เช่น งานวิเคราะห์หรือใช้ในอาหาร
ตัวอย่างสาร: โซดาไฟ (Caustic Soda), กรดซัลฟิวริก, โซเดียมคาร์บอเนต, กรดมิวริเอติก


🍞 2. เคมีภัณฑ์สำหรับอาหาร (Food Grade)

เป็นสารเคมีที่ได้รับการรับรองว่าสามารถใช้ในอุตสาหกรรมอาหารได้โดยปลอดภัยต่อผู้บริโภค มีความบริสุทธิ์สูงและผ่านมาตรฐานจากหน่วยงานกำกับ เช่น อย. หรือ Codex
🔹 ใช้ในกระบวนการผลิตอาหาร เครื่องดื่ม หรือผลิตภัณฑ์ที่สัมผัสอาหารโดยตรง
🔹 ต้องควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด
ตัวอย่างสาร:

  • กรดซิตริก (Citric Acid) ใช้ปรับรสและรักษาความสด

  • โซเดียมเบนโซเอต (Sodium Benzoate) ใช้เป็นสารกันเสีย

  • แคลเซียมคาร์บอเนต (Calcium Carbonate) ใช้เป็นสารเติมแต่งในอาหารเสริม


🧪 3. เคมีภัณฑ์สำหรับงานแล็บ (Laboratory Grade)

เป็นเคมีภัณฑ์ที่มีความบริสุทธิ์สูงมาก ใช้สำหรับงานวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ การวิจัย และการทดสอบในห้องปฏิบัติการ
🔹 ต้องมีค่าความบริสุทธิ์สูงกว่า 99%
🔹 มีฉลากแสดงสูตรเคมี ลักษณะทางกายภาพ และข้อมูลความปลอดภัย (MSDS)
🔹 ราคาสูงกว่าเคมีทั่วไป เพราะต้องผลิตด้วยกระบวนการควบคุมคุณภาพที่เข้มงวด
ตัวอย่างสาร:

  • กรดไนตริกบริสุทธิ์

  • เอทานอลเกรดแล็บ

  • โซเดียมไฮดรอกไซด์เกรดวิเคราะห์


🌾 4. เคมีภัณฑ์เกษตร (Agricultural Grade)

เป็นสารเคมีที่ใช้ในภาคการเกษตรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูก ปรับปรุงคุณภาพดิน หรือต้านทานโรคพืช
🔹 ใช้ผสมในปุ๋ย น้ำยาเคลือบผลไม้ หรือสารกำจัดแมลง
🔹 ต้องใช้อย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและผู้ใช้
ตัวอย่างสาร:

  • แคลเซียมไนเตรต (Calcium Nitrate) ช่วยบำรุงพืช

  • กรดบอริก (Boric Acid) ใช้ป้องกันเชื้อรา

  • โพแทสเซียมซัลเฟต (Potassium Sulfate) ใช้เป็นธาตุอาหารรอง

Food Grade: ใช้ในอาหารหรือผลิตภัณฑ์ที่สัมผัสกับอาหารได้ ปลอดภัยต่อผู้บริโภค

Industrial Grade: สำหรับงานทั่วไปในโรงงานและอุตสาหกรรม เช่น ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด หรือเคมีงานระบบ

Lab Grade: มีความบริสุทธิ์สูง ใช้ในงานวิจัย การวิเคราะห์ และการทดลองทางวิทยาศาสตร์

Agricultural Grade: ใช้ในภาคการเกษตร เช่น ปุ๋ย สารปรับปรุงดิน และสารป้องกันโรคพืช

ทุกผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายบนเว็บไซต์ www.worldchemical.co.th ผ่านการรับรองมาตรฐานคุณภาพจากผู้ผลิตโดยตรง
มีการควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบ การบรรจุ ไปจนถึงการจัดเก็บ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าสินค้ามีความบริสุทธิ์และปลอดภัยตามมาตรฐานสากล

นอกจากนี้ ยังมีเอกสาร MSDS (Material Safety Data Sheet) หรือ “เอกสารข้อมูลความปลอดภัยของสารเคมี” สำหรับแต่ละผลิตภัณฑ์
ซึ่งระบุรายละเอียดสำคัญ เช่น

  • ชื่อทางเคมีและสูตรทางเคมี

  • วิธีใช้อย่างปลอดภัย

  • วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นหากเกิดอันตราย

  • วิธีเก็บรักษาและกำจัดสารเคมีอย่างถูกวิธี

ทุกผลิตภัณฑ์จะระบุ “เกรดการใช้งาน” ไว้อย่างชัดเจน เช่น Food Grade, Industrial Grade, หรือ Lab Grade
เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสมกับประเภทงานและมาตรฐานความปลอดภัยที่ต้องการ

การเก็บรักษาเคมีภัณฑ์อย่างถูกวิธีเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อคงคุณภาพของสารและลดความเสี่ยงในการเกิดอันตราย
ควรเก็บในบริเวณที่แห้ง อากาศถ่ายเทสะดวก และไม่ถูกแสงแดดโดยตรง เพราะความร้อนและแสงอาจทำให้สารเคมีบางชนิดเสื่อมคุณภาพหรือเกิดปฏิกิริยาทางเคมีได้

นอกจากนี้ ควร แยกเก็บสารที่มีปฏิกิริยาต่อกัน เช่น

  • กรด (Acid) ไม่ควรเก็บใกล้ด่าง (Base)

  • สารไวไฟควรเก็บให้ห่างจากแหล่งความร้อนหรือประกายไฟ

  • สารออกซิไดซ์ (Oxidizer) ควรแยกจากสารอินทรีย์และสารติดไฟ

ภาชนะบรรจุต้องปิดสนิท แข็งแรง และมีฉลากระบุชื่อสาร ชนิด และวันหมดอายุอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันความสับสนในการใช้งาน
การจัดเก็บอย่างถูกวิธีไม่เพียงช่วยให้สารเคมีคงคุณภาพได้นานขึ้น แต่ยังช่วยลดอุบัติเหตุและเพิ่มความปลอดภัยภายในสถานที่ทำงานอีกด้วย

หากเกิดเหตุ สัมผัสสารเคมีโดยไม่ตั้งใจ ไม่ว่าจะเป็นการกระเด็นเข้าผิวหนัง เข้าตา หรือสูดดมเข้าไป ควรรีบดำเนินการดังนี้

  1. รีบล้างบริเวณที่สัมผัสด้วยน้ำสะอาดจำนวนมากทันที อย่างน้อย 15 นาที เพื่อชะล้างสารเคมีออกจากร่างกายให้มากที่สุด

  2. หากสารเคมีกระเด็นเข้าตา ให้เปิดเปลือกตาและล้างด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำเกลืออย่างต่อเนื่อง ห้ามใช้ยาหยอดตาโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์

  3. ในกรณีที่มีอาการ ระคายเคือง แสบ แดง พุพอง หรือหายใจติดขัด ให้รีบไปพบแพทย์ทันที

  4. ควร นำฉลากสินค้า ภาชนะบรรจุ หรือชื่อสารเคมี ติดตัวไปด้วย เพื่อให้แพทย์สามารถวินิจฉัยและให้การรักษาได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว

การปฐมพยาบาลเบื้องต้นอย่างทันท่วงทีเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะสารเคมีบางชนิดอาจซึมเข้าสู่ผิวหนังหรือทำลายเนื้อเยื่อได้ในเวลาอันสั้น

เคมีภัณฑ์ทุกชนิด มีอายุการใช้งาน (Shelf Life) ซึ่งโดยทั่วไปจะระบุวันผลิตและวันหมดอายุไว้บน ฉลากสินค้า หรือ บรรจุภัณฑ์ อย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบและใช้สารได้อย่างปลอดภัย

อายุของสารเคมีแต่ละชนิดอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับ

  • ประเภทของสาร เช่น กรด ด่าง ตัวทำละลาย หรือสารอินทรีย์

  • ความไวต่อแสง ความชื้น และอุณหภูมิ

  • สภาพภาชนะบรรจุ และวิธีการเปิดใช้งาน

บางชนิดอาจมีอายุยาวนานหลายปีหากเก็บในที่แห้ง เย็น และปิดสนิท ในขณะที่สารบางชนิด เช่น ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ หรือกรดบางชนิด อาจเสื่อมสภาพเร็วหากโดนอากาศหรือแสงแดด

ดังนั้น ควรตรวจสอบวันหมดอายุก่อนใช้งานทุกครั้ง และหลีกเลี่ยงการใช้สารที่เปลี่ยนสี มีกลิ่น หรือมีตะกอน เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุดของสารเคมี

ในการทำงานหรือใช้งานเคมีภัณฑ์ ควรสวมอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE: Personal Protective Equipment) ทุกครั้ง เพื่อป้องกันการสัมผัสสารเคมีโดยตรงที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง แผลไหม้ หรือการสูดดมสารพิษเข้าสู่ร่างกาย

อุปกรณ์ที่ควรใช้ เช่น

  • 🧤 ถุงมือป้องกันสารเคมี เพื่อป้องกันการกัดกร่อนของกรด ด่าง หรือตัวทำละลาย

  • 🥽 แว่นตานิรภัย เพื่อป้องกันสารเคมีกระเด็นเข้าตา

  • 😷 หน้ากากหรือเครื่องกรองไอระเหย สำหรับสารที่มีกลิ่นฉุนหรือตัวทำละลายระเหยง่าย

  • 👕 ชุดคลุมและรองเท้าป้องกันสารเคมี เพื่อป้องกันการเปื้อนหรือการซึมของสารเข้าสู่ผิวหนัง

โดยเฉพาะสารประเภท กรด ด่าง และตัวทำละลายอินทรีย์ (Organic Solvents) เช่น กรดมิวริเอติก โซดาไฟ หรือทินเนอร์ ควรใช้อย่างระมัดระวังและอยู่ในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทดีเสมอ

การใช้อุปกรณ์ป้องกันที่เหมาะสมจะช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดอันตราย และสร้างความปลอดภัยในการทำงานกับเคมีภัณฑ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สารเคมีแต่ละชนิดใช้ทำอะไร? คู่มือเลือกใช้ให้เหมาะกับงาน

สารเคมีมีหลายประเภทและถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่แตกต่างกัน การเลือกสารเคมีให้เหมาะสมจะช่วยให้งานมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และคุ้มค่ามากขึ้น มาดูกันว่า สารเคมีแต่ละชนิดใช้ทำอะไร และเหมาะกับงานประเภทไหน


1. สารเคมีสำหรับสระว่ายน้ำ

ใช้เพื่อควบคุมคุณภาพน้ำ ป้องกันตะไคร่ และกำจัดเชื้อโรค

  • คลอรีนผง (Calcium Hypochlorite) – ใช้ฆ่าเชื้อโรคและกำจัดตะไคร่ในสระว่ายน้ำ ให้ความเข้มข้นสูง เหมาะกับการปรับสภาพน้ำอย่างรวดเร็ว

  • คลอรีนน้ำ (Sodium Hypochlorite) – ใช้ในระบบกรองอัตโนมัติ หรือเติมเป็นประจำเพื่อรักษาคุณภาพน้ำ

  • สารตกตะกอน (Alum) – ทำให้น้ำใสขึ้นโดยจับสิ่งสกปรกให้ตกตะกอนก่อนกรอง

  • ยากำจัดตะไคร่ (Algaecide) – ป้องกันและกำจัดตะไคร่ทุกชนิดในสระ


2. สารเคมีสำหรับทำความสะอาดทั่วไป

ใช้ขจัดคราบสกปรก คราบไขมัน และคราบตะกรัน

  • กรดเกลือ (Hydrochloric Acid) – ใช้ล้างคราบตะกรันปูน คราบสนิม และคราบหินปูนบนพื้นหรือผนัง

  • โซดาไฟ (Caustic Soda) – ใช้ละลายไขมันอุดตันในท่อระบายน้ำ

  • น้ำยาล้างคราบสนิม – ใช้ขจัดคราบสนิมบนเหล็กหรือพื้นผิวโลหะ

  • น้ำยาล้างคราบไขมัน (Degreaser) – ใช้ทำความสะอาดคราบน้ำมันในโรงงานหรือครัวอุตสาหกรรม


3. สารเคมีสำหรับงานอุตสาหกรรม

ใช้ในกระบวนการผลิต การแปรรูป และการบำรุงรักษาเครื่องจักร

  • โซเดียมไฮโปคลอไรท์ (Sodium Hypochlorite) – ใช้ฆ่าเชื้อในโรงงานอาหารและเครื่องดื่ม

  • โซเดียมเมตาไบซัลไฟต์ (Sodium Metabisulfite) – ใช้เป็นสารกันเสียในอาหาร และฟอกสีในอุตสาหกรรม

  • โซเดียมคาร์บอเนต (Soda Ash) – ใช้ปรับค่า pH ในน้ำและในกระบวนการผลิตแก้ว


4. สารเคมีสำหรับงานเกษตร

ช่วยป้องกันและกำจัดโรคพืชหรือศัตรูพืช

  • สารกำจัดเชื้อรา (Fungicide) – ป้องกันและกำจัดเชื้อราบนพืช

  • สารกำจัดแมลง (Insecticide) – กำจัดแมลงศัตรูพืช

  • ปุ๋ยเคมี (Chemical Fertilizer) – เสริมธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช


5. ข้อควรระวังในการใช้สารเคมี

  • สวมอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) เช่น ถุงมือ หน้ากาก แว่นตา

  • อ่านฉลากและปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิต

  • เก็บสารเคมีในที่แห้ง อากาศถ่ายเท และห่างจากเด็ก


✅ สรุป: การเลือกใช้สารเคมีให้เหมาะสมกับงานไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงต่อผู้ใช้งานและสิ่งแวดล้อม หากต้องการปรึกษาเกี่ยวกับการเลือกซื้อหรือสั่งสารเคมีคุณภาพมาตรฐาน ติดต่อ World Chemical เพื่อรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ

เลือกสารเคมีให้เหมาะกับงาน: คู่มือสำหรับมืออาชีพและผู้ใช้งานทั่วไป

การเลือกใช้สารเคมีที่ถูกต้องและเหมาะสมกับงานเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และประหยัดต้นทุน หากเลือกผิด อาจทำให้สิ้นเปลือง เกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์ หรือเป็นอันตรายต่อผู้ใช้งานได้

ในบทความนี้ เราจะมาดูหลักการ เลือกสารเคมีให้เหมาะกับงาน พร้อมตัวอย่างการใช้งานจริงในแต่ละประเภท


1. พิจารณาจากประเภทของงาน

การใช้งานสารเคมีมีความหลากหลาย ควรเลือกให้ตรงกับวัตถุประสงค์

  • งานทำความสะอาดทั่วไป – เลือกสารเคมีที่อ่อนโยนต่อพื้นผิว เช่น น้ำยาล้างคราบไขมัน, น้ำยาล้างพื้นสูตร pH เป็นกลาง

  • งานล้างคราบหนัก – ใช้สารเคมีที่มีฤทธิ์แรง เช่น กรดเกลือ (ล้างตะกรันปูน), โซดาไฟ (ละลายไขมันท่อ)

  • งานฆ่าเชื้อโรค – ใช้คลอรีนผง/คลอรีนน้ำ, ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ หรือโซเดียมไฮโปคลอไรท์


2. พิจารณาความปลอดภัย

  • ตรวจสอบว่ามี MSDS (Material Safety Data Sheet) เพื่อดูข้อมูลความปลอดภัย

  • ใช้ PPE (อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล) เช่น ถุงมือ, แว่นตา, หน้ากากป้องกันไอระเหย

  • เลือกสารเคมีที่มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หากต้องใช้งานในพื้นที่อาศัยหรือใกล้แหล่งน้ำ


3. พิจารณาความเข้มข้นและประสิทธิภาพ

  • สารเคมีความเข้มข้นสูงเหมาะกับงานเร่งด่วนหรืองานที่คราบสกปรกมาก

  • ความเข้มข้นต่ำเหมาะกับการบำรุงรักษาหรือทำความสะอาดประจำวัน

  • ตัวอย่าง: คลอรีนผง (65-70%) เหมาะกับการปรับสภาพน้ำเร็ว, ส่วนคลอรีนน้ำ (10-12%) เหมาะกับเติมประจำ


4. ตัวอย่างการเลือกสารเคมีในงานต่าง ๆ

ประเภทงานสารเคมีแนะนำจุดเด่น
สระว่ายน้ำคลอรีนผง, คลอรีนน้ำ, ยากำจัดตะไคร่ฆ่าเชื้อ กำจัดตะไคร่ รักษาน้ำใส
ล้างคราบตะกรันกรดเกลือล้างคราบปูน คราบหินปูน
ท่ออุดตันโซดาไฟละลายคราบไขมัน เศษอาหาร
ครัวอุตสาหกรรมน้ำยาล้างคราบไขมัน (Degreaser)ล้างคราบน้ำมันได้รวดเร็ว
ฆ่าเชื้อพื้นผิวไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์, โซเดียมไฮโปคลอไรท์ปลอดภัยต่ออาหาร ฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย

5. เคล็ดลับการเลือกซื้อสารเคมี

  • ซื้อจาก ผู้จัดจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ เพื่อมั่นใจในคุณภาพและความเข้มข้นตามมาตรฐาน

  • ตรวจสอบ วันผลิตและวันหมดอายุ เพราะสารเคมีบางชนิดเสื่อมสภาพตามเวลา

  • เลือกบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะกับปริมาณการใช้งาน เพื่อป้องกันการเสื่อมคุณภาพ


💡 สรุป: การเลือกสารเคมีให้เหมาะกับงานต้องคำนึงถึงประเภทงาน ความปลอดภัย ความเข้มข้น และความน่าเชื่อถือของผู้ขาย หากต้องการคำแนะนำหรือเลือกซื้อสารเคมีคุณภาพมาตรฐาน ติดต่อ World Chemical เพื่อรับคำปรึกษาจากทีมผู้เชี่ยวชาญ

ท่อน้ำเหม็น / อุดตัน ใช้สารอะไรดี? คู่มือแก้ปัญหาครบจบในบทความเดียว

ท่อน้ำเหม็นและท่ออุดตัน เป็นปัญหากวนใจทั้งในบ้าน ร้านอาหาร โรงงาน และอาคารพาณิชย์ ปัญหานี้ไม่เพียงทำให้เกิดกลิ่นรบกวน แต่ยังส่งผลต่อสุขอนามัยและการระบายน้ำ หากปล่อยไว้นานอาจทำให้เกิดการสะสมของเชื้อโรคและแมลง เช่น แมลงสาบหรือแมลงวันน้ำ

หลายคนอาจเลือกใช้วิธีทางกายภาพ เช่น ใช้ปั๊มลม สูบแรงดัน หรือสายล้วงท่อ แต่ในหลายกรณี การใช้สารเคมีทำความสะอาดท่อ เป็นทางออกที่รวดเร็วและได้ผลชัดเจน วันนี้เราจะมาดูว่า ท่อน้ำเหม็น / อุดตัน ใช้สารอะไรดี และควรเลือกใช้อย่างไรให้ปลอดภัย


1. ทำไมท่อน้ำถึงเหม็นหรืออุดตัน?

ก่อนจะเลือกสารเคมี เราควรรู้สาเหตุของปัญหา เพราะสาเหตุที่ต่างกัน อาจต้องใช้สารเคมีคนละประเภท
สาเหตุหลัก ๆ ได้แก่:

  1. คราบไขมันและเศษอาหารสะสม – มักเกิดในครัวเรือน ร้านอาหาร และโรงงานผลิตอาหาร

  2. คราบสบู่และผม – เจอได้บ่อยในห้องน้ำและท่อน้ำฝักบัว

  3. ตะกรันและคราบหินปูน – เกิดจากน้ำกระด้างหรือการสะสมของแร่ธาตุ

  4. เศษดิน ทราย หรือสิ่งแปลกปลอม – พัดมากับน้ำฝนหรืองานก่อสร้าง

  5. ตะไคร่และเชื้อรา – เกิดในท่อที่มีความชื้นสูงและน้ำไม่ไหลแรง


2. สารเคมีที่ใช้แก้ปัญหาท่อน้ำเหม็น / อุดตัน

2.1 โซดาไฟ (Caustic Soda / Sodium Hydroxide)

คุณสมบัติ:
โซดาไฟเป็นสารเคมีที่มีฤทธิ์เป็นด่างเข้มข้น สามารถละลายไขมัน เศษอาหาร เส้นผม และคราบอินทรีย์อื่น ๆ ได้อย่างรวดเร็ว

วิธีใช้:

  1. สวมถุงมือและแว่นตานิรภัย

  2. เทโซดาไฟลงท่อ (ประมาณ 100-200 กรัมสำหรับบ้านทั่วไป)

  3. เติมน้ำร้อนตามเพื่อกระตุ้นปฏิกิริยา

  4. ปล่อยทิ้งไว้ 15-30 นาที แล้วเปิดน้ำล้าง

ข้อควรระวัง:

  • ห้ามผสมกับกรดหรือสารเคมีอื่น เพราะจะเกิดปฏิกิริยารุนแรง

  • ระวังการกระเด็น เพราะโซดาไฟกัดผิวหนังและดวงตาได้


2.2 น้ำยาล้างท่อสูตรกรด (Acid-Based Drain Cleaner)

คุณสมบัติ:
มีกรดเข้มข้น เช่น กรดซัลฟิวริก หรือกรดไฮโดรคลอริก ช่วยละลายตะกรัน คราบหินปูน และคราบโลหะออกไซด์ในท่อ

วิธีใช้:

  1. เทน้ำยาลงท่อที่อุดตัน

  2. ปล่อยทิ้งไว้ตามเวลาที่ระบุบนฉลาก (ปกติ 10-20 นาที)

  3. ล้างด้วยน้ำสะอาดปริมาณมาก

ข้อควรระวัง:

  • ใช้ในพื้นที่อากาศถ่ายเทดี

  • ห้ามใช้ในท่อ PVC หรือท่อพลาสติกที่ไม่ทนกรด


2.3 น้ำยาละลายไขมัน (Degreaser)

คุณสมบัติ:
ออกแบบมาเพื่อสลายคราบไขมันโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับท่อที่อุดตันจากเศษอาหารและน้ำมัน เช่น ในครัวร้านอาหาร

วิธีใช้:

  • เทน้ำยาลงท่อแล้วตามด้วยน้ำร้อน

  • ปล่อยทิ้งไว้ 30 นาที แล้วล้างออก

ข้อดี:

  • ปลอดภัยกว่ากรดและด่างเข้มข้น

  • ลดกลิ่นเหม็นจากคราบไขมันได้ดี


2.4 คลอรีน (Chlorine)

คุณสมบัติ:
ใช้ฆ่าเชื้อโรคและลดกลิ่นเหม็นในท่อ โดยเฉพาะในท่อระบายน้ำที่ไม่ได้อุดตันมาก แต่มีกลิ่นรบกวน

วิธีใช้:

  • ละลายคลอรีนในน้ำ แล้วเทลงท่อ

  • ใช้เป็นประจำเพื่อควบคุมกลิ่น

ข้อควรระวัง:

  • ไม่ควรใช้ร่วมกับสารเคมีอื่น โดยเฉพาะกรด เพราะอาจเกิดก๊าซพิษ


2.5 เอนไซม์กำจัดคราบอินทรีย์ (Enzyme-Based Cleaner)

คุณสมบัติ:
เป็นสูตรชีวภาพ ใช้จุลินทรีย์หรือเอนไซม์ย่อยสลายคราบไขมันและเศษอาหาร เหมาะสำหรับการบำรุงรักษาระยะยาว

ข้อดี:

  • ปลอดภัยต่อท่อและสิ่งแวดล้อม

  • ใช้ได้บ่อยโดยไม่ทำลายพื้นผิวท่อ


3. การเลือกสารเคมีให้เหมาะกับปัญหา

ปัญหาในท่อสารเคมีแนะนำหมายเหตุ
ไขมันและเศษอาหารโซดาไฟ, Degreaserโซดาไฟแรงกว่า เหมาะกับอุดตันหนัก
คราบสบู่และผมโซดาไฟละลายเส้นผมได้ดี
ตะกรัน/หินปูนน้ำยาล้างท่อสูตรกรดใช้กับท่อโลหะหรือปูน
กลิ่นเหม็นคลอรีนใช้ร่วมกับการทำความสะอาดทั่วไป
บำรุงรักษาระยะยาวเอนไซม์ปลอดภัย ใช้ได้บ่อย

4. ขั้นตอนความปลอดภัยเมื่อใช้สารเคมี

  1. อ่านฉลากและคำแนะนำของผู้ผลิตทุกครั้ง

  2. สวมถุงมือยาง แว่นตา และหน้ากาก

  3. หลีกเลี่ยงการสูดดมไอระเหย

  4. ห้ามผสมสารเคมีต่างชนิดกัน

  5. เก็บสารเคมีให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง


5. เคล็ดลับป้องกันท่อเหม็นและอุดตันในอนาคต

  • ไม่ทิ้งเศษอาหารหรือไขมันลงท่อโดยตรง

  • ติดตะแกรงกรองเศษผมและเศษอาหาร

  • ล้างท่อด้วยน้ำร้อนผสมเบกกิ้งโซดาและน้ำส้มสายชูเดือนละครั้ง

  • ใช้น้ำยาเอนไซม์ทำความสะอาดท่อเป็นประจำ


💡 สรุป:
ปัญหาท่อน้ำเหม็นหรืออุดตันสามารถแก้ได้ด้วยสารเคมีหลายประเภท เช่น โซดาไฟ, น้ำยาล้างท่อสูตรกรด, น้ำยาละลายไขมัน, คลอรีน และเอนไซม์ การเลือกสารเคมีที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับสาเหตุของปัญหาและชนิดของท่อ หากต้องการความรวดเร็ว โซดาไฟและกรดเข้มข้นคือทางเลือกที่ดี แต่ถ้าต้องการดูแลระยะยาวและปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม ควรใช้เอนไซม์หรือคลอรีนร่วมกับการล้างท่อประจำ

สำหรับผู้ที่มองหาสารเคมีคุณภาพสูง ปลอดภัย และมีมาตรฐาน World Chemical มีทั้งโซดาไฟ, น้ำยาล้างท่อ, คลอรีน และเอนไซม์สูตรเข้มข้น พร้อมให้คำแนะนำการใช้งานอย่างมืออาชีพ

Q&A เกี่ยวกับเว็บไซต์ worldchemical

รูปแบบการนำเสนอข้อมูลในลักษณะ “ถาม–ตอบ” จัดทำขึ้นเพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าใจข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า บริการ และการใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้นโดยเว็บไซต์ www.worldchemical.co.th ได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยไว้ เพื่อช่วยให้ลูกค้าหาคำตอบได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเลือกสินค้า การขอใบเสนอราคา ขั้นตอนการสั่งซื้อ หรือการติดต่อทีมงาน

A : การผสมสารเคมีเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูง เพราะสารแต่ละชนิดอาจเกิดปฏิกิริยาทางเคมีที่รุนแรงได้หากผสมผิดวิธี
เพื่อความปลอดภัยในการทำงาน ควรปฏิบัติดังนี้

  1. อ่านฉลากและเอกสาร MSDS (Material Safety Data Sheet) ทุกครั้งก่อนผสม
    เพื่อทราบคุณสมบัติของสารแต่ละชนิด เช่น ความเป็นกรด–ด่าง ความไวไฟ หรือความเป็นพิษ

  2. สวมอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE)
    เช่น ถุงมือ แว่นตา หน้ากาก และชุดคลุม เพื่อป้องกันการสัมผัสโดยตรงหรือการสูดดมไอระเหย

  3. ผสมในที่อากาศถ่ายเทดีหรือมีเครื่องดูดควัน (Fume Hood)
    เพื่อป้องกันการสะสมของไอระเหยหรือกลิ่นสารเคมีที่อาจเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ

  4. เติมสารเคมีอย่างถูกลำดับ
    ตัวอย่างเช่น ควร เติมกรดลงในน้ำทีละน้อย (Acid into Water) ไม่ใช่เทน้ำลงในกรด เพราะอาจเกิดความร้อนสูงและกระเด็นได้

  5. ห้ามผสมสารโดยไม่ทราบคุณสมบัติหรืออัตราส่วนที่แน่นอน
    บางคู่ของสาร เช่น คลอรีนกับกรด หรือกรดกับสารอินทรีย์ อาจเกิดก๊าซพิษหรือระเบิดได้

  6. ใช้ภาชนะที่เหมาะสมกับชนิดของสาร
    เช่น ภาชนะพลาสติก HDPE สำหรับกรด–ด่าง และไม่ใช้โลหะกับสารกัดกร่อน

  7. เก็บบันทึกสูตรและวันที่ผสมอย่างชัดเจน
    เพื่อควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยในกระบวนการผลิตหรือการใช้งานครั้งต่อไป

A : ผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายโดย World Chemical มีการติดฉลากอย่างครบถ้วนตามมาตรฐานความปลอดภัยของสารเคมี เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบข้อมูลสำคัญได้อย่างถูกต้องก่อนนำไปใช้

บนฉลากจะระบุรายละเอียดหลัก ๆ ดังนี้

  • 🧪 ชื่อสารเคมี (Chemical Name) และ สูตรเคมี (Chemical Formula) เพื่อป้องกันการสับสนระหว่างสารที่มีลักษณะคล้ายกัน

  • ⚖️ น้ำหนักสุทธิ (Net Weight) และปริมาณบรรจุจริง เพื่อให้ผู้ใช้งานคำนวณการใช้งานได้ถูกต้อง

  • 📋 คำแนะนำในการใช้งาน (Directions for Use) เช่น วิธีการผสม อัตราส่วน และข้อควรระวังในการสัมผัส

  • ⚠️ ข้อมูลความปลอดภัย (Safety Information) เช่น สัญลักษณ์เตือนภัย ความเป็นกรด–ด่าง หรือการปฐมพยาบาลเบื้องต้น

  • 🏭 ข้อมูลผู้ผลิตและผู้นำเข้า เพื่อยืนยันที่มาของสินค้าและสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้

นอกจากนี้ ฉลากสินค้าบางรายการยังมี QR Code หรือรหัสอ้างอิง (Batch No.) สำหรับตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม เช่น ใบรับรองคุณภาพ (COA / MSDS) เพื่อให้ลูกค้าได้รับข้อมูลครบถ้วนและมั่นใจในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ทุกชิ้น

A : สามารถขอคำแนะนำได้ครับ ทีมงาน World Chemical มีความเชี่ยวชาญด้านเคมีภัณฑ์หลากหลายประเภท พร้อมให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการเลือกใช้สารเคมีให้เหมาะสมกับประเภทงานของลูกค้า

ไม่ว่าจะเป็น

  • เคมีภัณฑ์สำหรับผลิต น้ำยาทำความสะอาดพื้น ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน หรือน้ำยาขัดเงา

  • เคมีภัณฑ์สำหรับ งานซักอบรีด โรงแรม ร้านอาหาร หรือโรงงานผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค

  • รวมถึงสารแต่งกลิ่น สี และสารเพิ่มประสิทธิภาพ (Additives) สำหรับสูตรเฉพาะของลูกค้า

ทีมงานจะช่วยแนะนำตั้งแต่การเลือกชนิดของสาร การคำนวณอัตราส่วนผสม ไปจนถึงแนวทางการทดสอบสูตรเบื้องต้น เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและปลอดภัยตามมาตรฐาน

A : สินค้าทุกชิ้นของ World Chemical จะผ่านขั้นตอนการตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนจัดส่งถึงมือลูกค้า เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ที่ได้รับมีคุณภาพและความปลอดภัยสูงสุด

ก่อนการจัดส่ง ทีมงานจะทำการ

  • ตรวจสอบความถูกต้องของฉลากสินค้า ว่าระบุชื่อสารเคมี รหัสสินค้า เกรดการใช้งาน และน้ำหนักสุทธิครบถ้วน

  • ตรวจเช็กสภาพบรรจุภัณฑ์ ให้แน่ใจว่าภาชนะบรรจุอยู่ในสภาพดี ไม่มีรอยรั่วหรือแตกร้าว

  • ตรวจดูความแน่นหนาของฝาปิดและซีลป้องกันการรั่วซึม โดยเฉพาะสารเคมีเหลว เช่น กรด ด่าง หรือตัวทำละลาย

  • ติดสติ๊กเกอร์คำเตือนและข้อมูลความปลอดภัย (Hazard Label) สำหรับสินค้าที่จัดอยู่ในหมวดสารอันตราย

นอกจากนี้ ยังมีการสุ่มตรวจคุณภาพของสารบางชนิดจากล็อตผลิต เพื่อยืนยันว่าสินค้ามีความบริสุทธิ์ตามมาตรฐานที่กำหนดไว้

ทุกกระบวนการเหล่านี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ลูกค้าได้รับสินค้าที่ ปลอดภัย ถูกต้องตามรายการสั่งซื้อ และอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน 100%

A : เป็นเว็บไซต์ของบริษัท World Chemical ผู้จัดจำหน่ายเคมีภัณฑ์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ครบวงจร เช่น เคมีอุตสาหกรรม เคมีทําความสะอาด เคมีสระว่ายน้ำ เคมีบำบัดน้ำ เคมีงานปั้น-งานหล่อ เคมีอาหาร กลิ่น สารสกัด สี น้ำหอม เคมีเครื่องสำอาง อาทิ กลีเซอรีน โซดาไฟเกล็ด โซเดียมเมต้าไบซัลไฟต์ เอทิลแอลกอฮอล์ ฯลฯ

A : มีบริการจัดส่งทั่วประเทศ พร้อมระบบติดตามสินค้า ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่าสินค้าจะถึงมืออย่างปลอดภัย

A : หัวเชื้อน้ำหอมสามารถใช้ทำได้หลายแบบ เช่น

  • น้ำหอมฉีดกาย

  • น้ำหอมปรับอากาศ

  • ก้านไม้หอม

  • เทียนหอม

  • สบู่และแชมพู

A : เราจำหน่ายทั้ง เคมีภัณฑ์ (เช่น คลอรีน, PAC, อลัม, โซดาไฟ, กรดมะนาว, เบกกิ้งโซดา), น้ำหอมและน้ำมันหอมระเหย, วัตถุดิบเครื่องสำอาง, รวมถึง อุปกรณ์สระว่ายน้ำ และ อุปกรณ์วิทยาศาสตร์ ครบวงจร

A : มีทั้ง ขนาดเล็ก 1 กก., 5 กก., ไปจนถึง บรรจุภัณฑ์ใหญ่ 25 กก., 50 กก. เหมาะสำหรับทั้งผู้ใช้ทั่วไปและโรงงานอุตสาหกรรม

A : มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษา ไม่ว่าจะเป็น การคำนวณการใช้คลอรีนในสระ, การผสมสารทำความสะอาด, หรือการใช้น้ำหอมในสูตรต่าง ๆ